แต่งหน้ารับปริญญาในโทนสีชมพู PINK PINK !!
07:58 |
เขียนโดย
Alejandra |
แก้ไขบทความ
สวัสดีจ๊าาาาาเพื่อนๆ
ห่างหายจากวงการโพสฮาวทูไปนานเนื่องด้วยกล้องพัง เลยอดบ้าพลังไปพักใหญ่ แต่ในที่สุดก็ได้คลอดฮาวทูแต่งหน้ารับปริญญาแบบเต็มรูปแบบ หลังจากที่เคยทำ mini guide ก็มีรีเควสขอแบบเต็มรูปแบบมา วันนี้เลยจัดให้ แถมได้น้องเกด น้องสาวที่น่ารักและนิสัยดีอาสามาเป็นเหยื่อให้ด้วย ซึ่งน้องเกดเองก็จะรับปริญญาเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้ อิฉันก็ขอแสดงความยินดีกับน้องเกด และบัณฑิตใหม่ที่รับปริญญาไปแล้ว และ กำลังจะรับปริญญาในอนาคตด้วยนะคะ
โทนสีแต่งหน้ารับปริญญา ที่แต่งแล้วดูสวยเป็นธรรมชาติก็จะมี ชมพู,ส้ม,พีช(ส้มอมชมพู) และ น้ำตาลทอง ค่ะ
แหม่มร่างโทนสีการแต่งหน้าไว้ทั้ง 4 แบบรวมถงเครื่องสำอางค์ที่ใช้แต่งในแต่ล่ะแบบโทนสี ถ้าใครสนใจก็หลังไมค์มาได้คะ ยินดีแจกให้ฟรีทางอีเมลล์
Before : เหยื่อของเฮาวันนี้ผิวหน้าค่อนข้างดี ไม่แห้ง ไม่มันเป็นผิวแบบธรรมดา ไม่มีริ้วรอย หรือจุดด่างดำ แต่มีปัญญา สิวเม็ดเล็กๆที่หน้าผาก และกระเล็กๆ ตามผิวหน้า ซึ่งสามารถปกปิดได้ด้วยรองพื้น
ผิวหน้า
ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดรอให้ครีมซึมซับลงผิวดีแล้ว ก็ตามด้วยเบสใสก่อนลงรองพื้น เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้นจะได้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้นและช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนขึ้นด้วยอีกต่างหาก
Review :วันนี้แหม่มลงเบสใสของโมเดลโคให้น้องค่ะ หลังจากเบสของ smashbox หมด เลยมีโอกาสได้ซื้อตัวนี้มาลอง เทียบกันแล้วตัวนี้เกลี่ยง่ายกว่า เพราะเนื้อเหลวกว่า และบรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติกแบบหลอดบีบได้ อันเก่าของ smashbox เป็นแบบขวดแก้วต้องปั้มเอา ซึ่งหลังจากใช้ไปสักพักก็จะปั้มไม่ขึ้น ลำบากอิชั้นต้องสรรหาวิธีจกเบสจากขวดขึ้นมาใช้อี๊กก
หลังจากนั้นก็ลงรองพื้น 5 จุดแล้วใช้แปรงเกลี่ยให้เนียนทั่วหน้า ตรงไหนที่ต้องปกปิดเป็นพิเศษ ค่อยใช้ดัชนีนางกดรองพื้นซ้ำเป็นจุดๆไปจะได้ไม่หนักหนังหน้าน๊ะ
Founadation review : ได้ยินกิตติศัพท์รองพื้นเอสเต้มานาน ว่าเนียนและติดทน เหมาะกับการปกปิด มากหน่อย และเน้นให้ติดทน เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับการเอามาแต่งหน่ารับปริญญาวันนี้ใช้รุ่น double wear เทียบกะของ covermark ที่ว่าดีแล้ว เราว่าตัวนี้ของเอสเต้ติดทนนานกว่านะคะ อ้อ อิฉันสอยรุ่นปกปิดแบบ maximumของ เอสเต้มาด้วยเทสแล้วว่าเนียนโคตรๆ เหมาะกับการใช้รองพื้นออกงาน แบบคือให้รู็ว่าทาแล้วเนียนน แต่มันก็ไม่ดูหนานะ แค่รู็สึกว่าเอ้ยมันเนียนผิดปกติ เหมาะกับคนที่ต้องการปกปิดมากๆ ถ้าอยากได้แบบใสๆ รองพื้นของ ลูนาซอล ดีกว่าคะ เนียนจะบางกว่า เหมาะกับการใช้ทุกวัน รูปรีวิวด้านล่างเลยจ๊า
ที่วงๆใว้คือบริเวณกักกันไว้เพื่อทดสอบประสิทธิภาพรองพื้นตัวนี้ไว้นะคะ จะสังเกตุได้ว่า After รอยเส้นเลือดมองไม่เห็นแล้วคะ เนียนดีทดลองทาแต่งหน้าออกไปลัลล้าท้งวัน ไม่มีลอกล่อนหรือเป็นคราบแตกลายงาแต่อย่างใด ถือว่าผ่านการทดสอบค่ะ :)
กลับมาที่น้องนางแบบ
เพิ่มมิติให้ใบหน้าด้วยเฉดดิ้งที่ข้างแก้มและสันจมูก หน้าจะได้ดูคมมีมิติมากขึ้น แหม่มใช้เฉดดิ้งArty เหมือนเดิม เพราะมันเนื้อเนียนบางเกลี่ยง่าย ให้สีเป็นธรรมชาติ ตัวนี้ใช้หมดไปหลายตลับแล้วค่ะ
ลงไฮไลต์ให้ผิวสว่างขึ้นที่ใต้โหนกคิ้วและสันจมูก แหม่มแอบบลงตรงรอยหยักของขอบปากด้านบนนิดหน่อยด้วย เพราะมันจะทำให้ขอบปากดูเชิดขึ้น น่ารักดี แหม่มใช้eyecream ของ shisedo มาทำไฮไลต์
แก้ม
ปัดแก้มด้วยสี Orgasm ของ NARS + OP จะได้แก้มระเรื่อๆออกสีชมพูหวานๆ แพร่บ แพร่บบบ ( แอบเลียจอคอมพิวเตอร์)
คิ้ว
เขียนคิ้วให้ได้รูปด้วยสีน้ำตาล เพราะวันรับปริญญาต้องทำผมสีเข้ม แต่น้องเกดยังไม่ได้ย้อมผมสีเข้มเลยอาจจะดูขัดๆนิดนึงกับลุครับปริญญา แต่ว่าใให้อภัยได้คับ เพราะว่าน้องเค้าสวย ฮ่า ฮ่าาา
เปลือกตาด้านบน
ปาก
ถ้าอยากได้ลุคใสๆ ก็ลง tint แล้วตามด้วยลิบกลอสแบบในรูปtint สีกุหลาบแดงอมชมพูดูสวยงาม แต่ข้อเสียก็คือ การลงสีแบบนี้สีจะอยู่ได้ไม่นานค่ะต้องคอยเติมระหว่างวัน ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาว่างมานั่งเติมสีปากหรือเปล่า มีอีกวิธีนึงที่จะทำให้สีปากเราไม่ซีดจางได้ง่ายๆก็คือ.......... แต่น แตน แต๊นนนนนนนนน
เอาดินสอเขียนขอบปากมาใช้ทาให้ทั่วปากแทนลิปสติก รับประกันว่าติดทนนานค่ะ รีวิวสีไว้ด้านบนนะคะ
ผลงานหลังแต่งก็เป็นเยี่ยงนี้แล..............
ทดลองถ่ายภาพในแสงที่แตกต่างกัน
ขอให้ฮาวทูนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการใช้โทนสีแต่งหน้ารับปริญญาแล้วกันนะคะ ยังไงการแต่งหน้าก็ไม่มีแบบแผนที่ตายตัว เราสามารถเอาไปปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบของเราได้อีกเยอะแยะคะ
ห่างหายจากวงการโพสฮาวทูไปนานเนื่องด้วยกล้องพัง เลยอดบ้าพลังไปพักใหญ่ แต่ในที่สุดก็ได้คลอดฮาวทูแต่งหน้ารับปริญญาแบบเต็มรูปแบบ หลังจากที่เคยทำ mini guide ก็มีรีเควสขอแบบเต็มรูปแบบมา วันนี้เลยจัดให้ แถมได้น้องเกด น้องสาวที่น่ารักและนิสัยดีอาสามาเป็นเหยื่อให้ด้วย ซึ่งน้องเกดเองก็จะรับปริญญาเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้ อิฉันก็ขอแสดงความยินดีกับน้องเกด และบัณฑิตใหม่ที่รับปริญญาไปแล้ว และ กำลังจะรับปริญญาในอนาคตด้วยนะคะ
โทนสีแต่งหน้ารับปริญญา ที่แต่งแล้วดูสวยเป็นธรรมชาติก็จะมี ชมพู,ส้ม,พีช(ส้มอมชมพู) และ น้ำตาลทอง ค่ะ
แหม่มร่างโทนสีการแต่งหน้าไว้ทั้ง 4 แบบรวมถงเครื่องสำอางค์ที่ใช้แต่งในแต่ล่ะแบบโทนสี ถ้าใครสนใจก็หลังไมค์มาได้คะ ยินดีแจกให้ฟรีทางอีเมลล์
โทนสีที่อิฉันเอามาเสนอหน้าวันนี้ก็คือโทนชมพูนะคะ เพราะน้องเกดเค้าหน้าหวาน บวกกับนิสัยเรียบร้อยเลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับสีชมพูหวาน และลุคแบบใสๆ
แหม่มลงสีเครื่องสำอางค์จริงบนกระดาษ อาศัยการวาดมือเอา เพราะว่าปึกเหลือเกิ๊นนนกับการใช้ illustrator ยกเว้นสีปากนะคะที่ไม่ใด้ใช้เครื่องสำอางค์จริงลงสี
มาเริ่มกันเลยดีกว่าาาาาาาาาาาาาาาาา ถือโอกาสรีวิวเครื่องสำอางค์ที่ใช้บางส่วนไปด้วยเลยก็แล้วกัน
ผิวหน้า
ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดรอให้ครีมซึมซับลงผิวดีแล้ว ก็ตามด้วยเบสใสก่อนลงรองพื้น เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้นจะได้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้นและช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนขึ้นด้วยอีกต่างหาก
Review :วันนี้แหม่มลงเบสใสของโมเดลโคให้น้องค่ะ หลังจากเบสของ smashbox หมด เลยมีโอกาสได้ซื้อตัวนี้มาลอง เทียบกันแล้วตัวนี้เกลี่ยง่ายกว่า เพราะเนื้อเหลวกว่า และบรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติกแบบหลอดบีบได้ อันเก่าของ smashbox เป็นแบบขวดแก้วต้องปั้มเอา ซึ่งหลังจากใช้ไปสักพักก็จะปั้มไม่ขึ้น ลำบากอิชั้นต้องสรรหาวิธีจกเบสจากขวดขึ้นมาใช้อี๊กก
หลังจากนั้นก็ลงรองพื้น 5 จุดแล้วใช้แปรงเกลี่ยให้เนียนทั่วหน้า ตรงไหนที่ต้องปกปิดเป็นพิเศษ ค่อยใช้ดัชนีนางกดรองพื้นซ้ำเป็นจุดๆไปจะได้ไม่หนักหนังหน้าน๊ะ
Founadation review : ได้ยินกิตติศัพท์รองพื้นเอสเต้มานาน ว่าเนียนและติดทน เหมาะกับการปกปิด มากหน่อย และเน้นให้ติดทน เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับการเอามาแต่งหน่ารับปริญญาวันนี้ใช้รุ่น double wear เทียบกะของ covermark ที่ว่าดีแล้ว เราว่าตัวนี้ของเอสเต้ติดทนนานกว่านะคะ อ้อ อิฉันสอยรุ่นปกปิดแบบ maximumของ เอสเต้มาด้วยเทสแล้วว่าเนียนโคตรๆ เหมาะกับการใช้รองพื้นออกงาน แบบคือให้รู็ว่าทาแล้วเนียนน แต่มันก็ไม่ดูหนานะ แค่รู็สึกว่าเอ้ยมันเนียนผิดปกติ เหมาะกับคนที่ต้องการปกปิดมากๆ ถ้าอยากได้แบบใสๆ รองพื้นของ ลูนาซอล ดีกว่าคะ เนียนจะบางกว่า เหมาะกับการใช้ทุกวัน รูปรีวิวด้านล่างเลยจ๊า
กลับมาที่น้องนางแบบ
เพิ่มมิติให้ใบหน้าด้วยเฉดดิ้งที่ข้างแก้มและสันจมูก หน้าจะได้ดูคมมีมิติมากขึ้น แหม่มใช้เฉดดิ้งArty เหมือนเดิม เพราะมันเนื้อเนียนบางเกลี่ยง่าย ให้สีเป็นธรรมชาติ ตัวนี้ใช้หมดไปหลายตลับแล้วค่ะ
ลงไฮไลต์ให้ผิวสว่างขึ้นที่ใต้โหนกคิ้วและสันจมูก แหม่มแอบบลงตรงรอยหยักของขอบปากด้านบนนิดหน่อยด้วย เพราะมันจะทำให้ขอบปากดูเชิดขึ้น น่ารักดี แหม่มใช้eyecream ของ shisedo มาทำไฮไลต์
หลังจากนั้นก็เหมือนเดิมชุบแป้งทอดดด ด้วย แป้งฝุ่น LM
แก้ม
ปัดแก้มด้วยสี Orgasm ของ NARS + OP จะได้แก้มระเรื่อๆออกสีชมพูหวานๆ แพร่บ แพร่บบบ ( แอบเลียจอคอมพิวเตอร์)
คิ้ว
เขียนคิ้วให้ได้รูปด้วยสีน้ำตาล เพราะวันรับปริญญาต้องทำผมสีเข้ม แต่น้องเกดยังไม่ได้ย้อมผมสีเข้มเลยอาจจะดูขัดๆนิดนึงกับลุครับปริญญา แต่ว่าใให้อภัยได้คับ เพราะว่าน้องเค้าสวย ฮ่า ฮ่าาา
เปลือกตาด้านบน
- ทาสีชมพูอ่อน(1) ให้ทั่วเปลือกตาตามรูปเลยจ๊ะ
- ทาสีชมพูเข้ม(2) ตรงรอยพับของเปลือกตาแล้วเกลี่ยให้สีเนียนกลมกลืนกัน
- ลงสีน้ำตาลทอง(3) ที่หางตา อาจจะลงสีนี้ตรงเปลือกตาด้านบนแถวๆบริเวณหัวตาด้วยตาจะดูลึกมีมิติและดูกลมขึ้น
- ทาสีขาว(1) ที่หัวตาไปประมาณ 1/3 ของความยาวรูปตา
- ลงสีน้ำตาลทอง(2) ที่หางตา 2/3 ของความยาวรูปตาด้านล่าง
- กรีดขอบตาด้วยเจลอายไลน์เนอร์สีดำ แหม่มใช้ของ Etude
- เอาคัตตอนบลัชแต้มสีน้ำตาลเข้มหรือดำมาเกลี่ยเส้นขอบตาตรงหางตาให้ดูฟุ้งๆ
- ดัดขนตาให้งอนด้วยที่ดัดขนตาของ shu
- ปัดขนตาให้ดกดำและดูงอนงามด้วยเจ้ามาสคาร่าอ้วนดำของ maybeline ของดีราคาไม่แพง
บางคนอาจจะจบขั้นตอนการแต่งตาที่ตรงนี้ถ้าชอบลุคใสๆนะคะ แต่แหม่มอยากให้น้องถ่ายรูปออกมาสวยเลยเพิ่มขนตาปลอมให้น้องเค้าด้วย เพราะตอนถ่ายรูปสีที่เราแต่งหน้าไว้จะดรอบลงจากปกติ 20-30% ยังไงรูปถ่ายเราต้องเก็บไว้ดูชั่วลูกชั่วหลานอ่ะนะ ขอสวยในรูปไว้เป็นหลักก็แล้วกัน ฮ่าๆตัดขนตาปลอมเอามาใช้แค่ครึ่งแผลติดเฉพาะตรงหางตาก็พอคะจะได้ลุคหวานปนเฉี่ยวเล็กๆและดูเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นก็กรีดอายไลน์เนอร์เส้นเล็กๆแบบน้ำสีดำลงไปเพื่อปกปิดรอยแนวกาวติดขนตาปลอม
เอาดินสอเขียนขอบปากมาใช้ทาให้ทั่วปากแทนลิปสติก รับประกันว่าติดทนนานค่ะ รีวิวสีไว้ด้านบนนะคะ
++++++ จบขั้นตอนการแต่งหน้าทั้งหมดแล้วจ๊า++++++
ผลงานหลังแต่งก็เป็นเยี่ยงนี้แล..............
สวยหวานในโทน PINK PINK
เทียบรูป BEFORE & AFTER ให้ดูคะ
ทดลองถ่ายภาพในแสงที่แตกต่างกัน
แสงธรรมชาติในที่ร่ม
ในที่ร่ม
กลางแจ้งประมาณเที่ยงๆ
กลางแจ้งอีกภาพค่ะ
ภาพนี้ยิงแฟลชกลางแจ้งค่ะ
ขอให้ฮาวทูนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการใช้โทนสีแต่งหน้ารับปริญญาแล้วกันนะคะ ยังไงการแต่งหน้าก็ไม่มีแบบแผนที่ตายตัว เราสามารถเอาไปปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบของเราได้อีกเยอะแยะคะ
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ล่วงหน้าด้วยนะคะ
ต้องขอขอบคุณน้องเกดที่หลวมตัวมาเป็นแบบให้ด้วยเด้อออออ พี่หล้าซาบซึ้งน้ำใจมากมาย
เตรียมสวยให้พร้อมก่อนวันรับปริญญา
18:58 |
เขียนโดย
Alejandra |
แก้ไขบทความ
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนด้วยนะจ๊ะ ขอให้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ คู่คุณธรรม นำความรู้ความสามารถที่อุตสาหะร่ำเรียนมา ช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป เพื่อลูกหลานในอนาคตจะได้สบาย เรื่องการเตรียมตัวให้พร้อมในวันรับปริญญานั้นมีหลายเรื่องขอแยกออกเป็นเรื่องๆนะคะ
การเลือกซื้อถุงน่อง
ชนิดของถุงน่อง : ถุงน่องนั้นมีหลายชนิดแต่แบบที่เหมาะสำหรับใส่ในวันรับปริญญาควรเป็นแบบ Sheer เนื้อถุงน่องจะเนียน ไม่หนา ใส่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติกลืนไปสีผิวจริง และดูเหมือนไม่ได้ใส่ หรือแบบ Support ก็จะหนาขึ้นมาอีดกหน่อย และ กระชับมากกว่าแบบ sheer
ขนาดของถุงน่อง : โดยปกติแล้วผู้หญิงเราจะมีสรีระรูปร่าง และขนาดที่แตกต่างกันออกไป ขนาดมาตรฐาน( free size )ของถุงน่องทั่วไป ผลิตมาสำหรับผู้มีความสูงเฉลี่ยตั้งแต่ 145 – 165 ซม. และมีความกว้างรอบสะโพก ขนาด 80 – 98 ซม. แต่โดยทั่วไปแล้วจะมี 3 ขนาด
นอกจากนี้ยังมีการแยกขนาดของถุงน่องแบบพิเศษตามขนาดของรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย 3 แบบ คือ
การเลือกสีของถุงน่อง : แน่นอนว่าคุณสาวๆต้องใส่สีเนื้อเพราะเป็นงานแบบมีพิธีการต้องดูเรียบร้อยและสุภาพนิดนึง… เก็บถุงน่องลวดลายแพรวพราวหรือสีสันแสบทรวดไว้ในตู้ก่อน ถุงน่องสีเนื้อก็มีหลายเฉดสีแต่สีไหนน๊าที่จะเหมาะกับคุณสาวๆในแต่ละโทนสีผิว เพราะถ้าเราเรียกสีถุงน่องสว่างหรือเข้มเกินไป จะดูเหมือนว่าไปเอาท่อนขาของคนอื่นมาสวมไว้ เพราะมันจะดูหลอกตาเหมือนขาปลอม *.* โทนสีเนื้อหลักๆที่ขายกันทั่วไปตามท้องตลาดก็จะมี...
เลือกสีและขนาดของถุงน่องให้เหมาะกับสีผิว,รูปร่างและเรียวขาจะช่วยให้ใส่ถุงน่องสบายและกระชับกับเรียวขา ถ้าไม่มั่นใจเรียกขนาดถุงน่องก็ปรึกษาพนักงานขายเลยจ๊าเพื่อความมั่นใจ
เรื่องของสีผม
ควรเป็นสีผมสุภาพตามธรรมชาติ แต่สำหรับสาวแซ่บที่รักการเปลี่ยนสีผมอาจจะต้องคิดหนัก หากต้องย้อมสีผมเป็นสีดำจะทำให้ผมดำมากและจะเป็นปัญหาในการเปลี่ยนสีผมไปเป็นเฉดสีที่อ่อนกว่าในภายหลัง เพราจะย้อมสีอื่นไม่ค่อยติด หรือกระดำกระด่างจึงต้องทำการล้างสีผมสีดำก่อนถึงจะย้อมสีใหม่ได้ ซึ่งการล้างสีผมจะทำให้ผมแห้งเสียมาก อิชั้นเลยขอนำเสนอทางเลือกอื่นๆที่จะช่วยชีวิตผมในวันรับปริญญา
1. สเปรย์ฉีดเปลี่ยนสีผม หาซื้อได้ตามร้านขายส่งเครื่องสำอางทั่วไป
ข้อดี : สะดวกในการเปลี่ยนสีผมชั่วคราว เพราะแค่สระ สีผมที่เราฉีดไว้ก็จะหลุดออก
ข้อเสีย : ต้องระวังน้ำ ระวังฝน ระวังเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้า
2. การ wax เคลือบสีผม สามารถซื้อผลิตภัณฑ์มาทำได้เองที่บ้าน หรือจะทำที่ร้านเสริมสวยก็ได้
ข้อดี : สีผมไม่เลอะเลือนง่าย ทำให้ไม่ต้องระวังมาก เส้นผมจะเงาสลวยและมีน้ำหนัก
ข้อเสีย : wax ที่เคลือบผมไว้จะค่อยๆหลุดล่อนไปตามกาลเวลา ในตอนที่เราสระผม แต่มันจะไม่หลุดไปทั้งหมดซะทีเดียวทำให้มันอาจจะเป็นปัญหาในภายหลังถ้าหากเราอยากจะย้อมสีผม อาจจะได้สีผมที่ไม่สม่ำเสมอ เพราะ เส้นผมบริเวณที่ยังมี wax เคลือบเอาไว้อยู่จะไม่ติดสีย้อมผมค่ะ
3. ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชั่วคราวจากญี่ปุ่น เพียงแค่สระและหมักทิ้งไว้ แล้วล้างออก ก็จะได้สีผมใหม่แล้วค่ะ
ข้อดี : สะดวก ทำได้เองที่บ้าน ผมไม่เสีย สีจะคงอยู่ได้หลายวัน
4. วิกผม ซื้อวิกมาใส่เลยค่ะ คงจะไม่แปลกอะไรเพราะทุกวันนี้ใครๆก็ใส่กัน
ข้อดี : ง่ายและรวดเร็ว ผมไม่เสีย
ข้อเสีย : อาจจะต้องทนกับความร้อนและความคัน ถ้าถ่ายรูปใช้แฟลช สีของเส้นไหมจะหลอกมาก และดูไม่เป็นธรรมชาติ ต้องจัดทรงดีดี นะจ๊ะ วิกมันจะได้ดูไม่เป็น วิ๊ก วิก
เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
ชุดครุย ตามแบบของแต่ละมหาวิทยาลัย คิดไว้เลยว่าเอายังไง
1. เช่า สามารถไปลองที่ร้านได้เลยใส่ตัวไหนขนาดพอดีตัวก็เช่ามาโลด
2. ตัดเช่า คือไปวัดตัวแล้วให้ช่างตัดตามขนาดตัวเราแต่ใช้งานเสร็จแล้วต้องส่งชุดให้ทางร้านค่ะ
3. ซื้อ ตัดชุดตามขนาดตัวหลังการใช้งานก็เก็บชุดครุยไว้เป็นที่ชื่นชมของวงศ์ตระกูล หรือใครเป็นความหวังหมู่บ้านอยากเก็บไว้ เพราะเป็นครั้งหนึ่งของชีวิตก็เลือกเอาตามสะดวกเลยจ๊า
รองเท้าสำหรับใส่ในวันรับปริญญา
ควรมีเวลาเลือกซื้อและลองใส่ก่อนถึงวันจริงพอประมาณ เผื่อจะได้มีเวลาทำความคุ้นเคยกับรองเท้าจะได้ไม่เจอปัญหารองเท้ากัดตามมาเน้ออออ อย่าลืมว่าเราต้องซ้อมต้องเดินอยู่กับรองเท้าทั้งวัน ถ้ารองเท้ากัดนี่มันจะเป็นอะไรที่มรมานมั่กมาก...
เลือกรองเท้าสีดำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบนะคะเวลาทดลองใส่ควรทดลองททั้ง 2 ข้างแล้วเดินดูด้วยคะว่าเดินสะดวกมั้ยรู้สึกคับตรงช่วงไหนบ้างหรือเปล่า เช่น เรารู้สึกคับและเจ็บบริเวณนิ้วเท้าก็มั่นใจได้เลยว่า ในอานาคตรองเท้ามันต้องกัดเราบริเวณนี้แน่ๆ เลือกรองเท้าให้ถูกใจมันก็ยากเหมือนเลือกแฟนนั่นแหล่ะค่ะ (แต่เรื่องเลือกแฟนก็ยังยากกว่าอยู่นะ หุหุ)
การเตรียมผิวหน้าให้ สวยสดใส
นอกเหนือจากการบำรุงผิวพรรณตามปกติ ช่วง 1 เดือนก่อนถึงวันงานควรมาร์คหน้า ขัดหน้าและบำรุงผิวให้มากเป็นพิเศษอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผิวของเราชุ่มชื่น และเต่งตึงก็จะทำให้การแต่งหน้าเนียนสวยได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าผิวหน้าแห้งก็จะมีปัญหาทาแป้งไม่เนียนเท่าไหร่ หรือทาแป้งไม่ค่อยติดหน้า เพราะผิวหน้าอาจจะมีสะเก็ดเล็กๆของผิวแห้ง เคล็ดลับพิเศษเตรียมผิวให้นุ่มและชุ่มชื่นในระยะเวลา 3 วันก่อนถึงวันงาน คือ การล้างหน้าด้วยนมสดรสจืด ถ้าใครอย่างเสี่ยงลองนมหวานทาแล้วหน้าเหนียวก็อย่าว่ากันนะค๊า เอานมสดล้างหน้า หลังการล้างหน้าปกติ อย่าล้างหน้าทันทีให้รอให้หน้าแห้งสัก 15 – 20 นาที ค่อยล้างออกผิวหน้าจะนุ่มลื่นและเนียนขึ้น หรือจะพอกหน้าด้วยโยเกริต์ก็ดีค่ะ ถ้าใครผิวมันหน่อยให้ผสมน้ำมะนาวลงไปในโยเกริต์ด้วยแล้วเอามาพอก ทิ้งไว้รอจนแห้งสัก 30 นาทีค่อยล้างหน้าออกก็ได้ผลดีทีเดียวคะ หน้าจะดูผ่องขึ้นมาทันตา ส่วนในช่วงวันงานต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็อย่าลืมล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดนะคะ พักผ่อน และดื่มน้ำก่อนนอนให้มากๆตื่นมาหน้าตาจะได้สดใส พร้อมไปแต่งหน้าให้เฉิดฉายและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกพร้อมกับเพื่อนๆและครอบครัว ก่อนนอนอาจจะฝานแตงกวาสัก 2 แผ่น มาโปะรอบดวงตาไว้ ผิวบริเวณนั้นจะได้ชุ่มชื้น และช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตาได้ หรือถ้าใต้ตาคล้ำมา ฝานมันฝรั่งมา 2 แผ่นวางไว้บนดวงตาก็ช่วยได้ เพราะในมันฝรั่งจะมีตัวช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตาได้ดีมากๆค่ะ
การเลือกซื้อถุงน่อง
ชนิดของถุงน่อง : ถุงน่องนั้นมีหลายชนิดแต่แบบที่เหมาะสำหรับใส่ในวันรับปริญญาควรเป็นแบบ Sheer เนื้อถุงน่องจะเนียน ไม่หนา ใส่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติกลืนไปสีผิวจริง และดูเหมือนไม่ได้ใส่ หรือแบบ Support ก็จะหนาขึ้นมาอีดกหน่อย และ กระชับมากกว่าแบบ sheer
ขนาดของถุงน่อง : โดยปกติแล้วผู้หญิงเราจะมีสรีระรูปร่าง และขนาดที่แตกต่างกันออกไป ขนาดมาตรฐาน( free size )ของถุงน่องทั่วไป ผลิตมาสำหรับผู้มีความสูงเฉลี่ยตั้งแต่ 145 – 165 ซม. และมีความกว้างรอบสะโพก ขนาด 80 – 98 ซม. แต่โดยทั่วไปแล้วจะมี 3 ขนาด
- Size SM สำหรับความสูง 150 -160 ซม. ขนาดรอบสะโพกโดยเฉลี่ย 80 – 94 ซม.
- Size ML สำหรับความสูง 158 -170 ซม. ขนาดรอบสะโพกโดยเฉลี่ย 88 – 100 ซม.
- Size XL สำหรับความสูง 166 -170 ซม. ขนาดรอบสะโพกโดยเฉลี่ย 96 – 110 ซม.
นอกจากนี้ยังมีการแยกขนาดของถุงน่องแบบพิเศษตามขนาดของรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย 3 แบบ คือ
- ผอมบาง ( Extra Small ) เหมาะสำหรับคนที่ตัวเล็กและรูปร่างไม่สูงนัก ความสูงเฉลี่ย 150 - 155 ซม. น้ำหนัก อยู่ในเกณฑ์ระหว่าง 35 – 45 กก. ขนาดรอบสะโพกระหว่าง 75 – 85 ซม.
- อ้วนเตี้ย ( Extra Asian ) เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างอ้วนและไม่สูงนัก มีเรียวขาอวบและต้นขาใหญ่ เฉลี่ยความสูงระหว่าง 155 – 165 ซม. น้ำหนักโดยเฉลี่ย 60 – 70 กก. สะโพกระหว่าง 90 – 100 ซม.
- สูงใหญ่ ( Extra European ) เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างใหญ่แบบฝรั่ง คือสูงและมีขนาดตัวใหญ่ ความสูงตั้งแต่ 165 ซม. ขึ้นไป มีน้ำหนักมากกว่า 70 กก. และมีขนาดสะโพกมากกว่า 100 ซม.
การเลือกสีของถุงน่อง : แน่นอนว่าคุณสาวๆต้องใส่สีเนื้อเพราะเป็นงานแบบมีพิธีการต้องดูเรียบร้อยและสุภาพนิดนึง… เก็บถุงน่องลวดลายแพรวพราวหรือสีสันแสบทรวดไว้ในตู้ก่อน ถุงน่องสีเนื้อก็มีหลายเฉดสีแต่สีไหนน๊าที่จะเหมาะกับคุณสาวๆในแต่ละโทนสีผิว เพราะถ้าเราเรียกสีถุงน่องสว่างหรือเข้มเกินไป จะดูเหมือนว่าไปเอาท่อนขาของคนอื่นมาสวมไว้ เพราะมันจะดูหลอกตาเหมือนขาปลอม *.* โทนสีเนื้อหลักๆที่ขายกันทั่วไปตามท้องตลาดก็จะมี...
- รหัส 01 สีเบจ สำหรับคนที่มีสีผิวขาวมาก ใส่ขาจะดูนวลเนียนผุดผ่อง
- รหัส 02 สีกาแฟครีม สำหรับคนผิวค่อนข้างขาวใส่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติ
- รหัส 04 สีเนื้อบุษราคัม สำหรับคนที่มีสีผิวออกเหลืองเพิ่มเสน่ห์ให้ขาเนียนสวย
- รหัส 05 สีเนื้ออมส้ม สำหรับคนผิวขาวเหลือง ใส่สีนี้แล้วจะดูนวลงามมีเสน่ห์
- รหัส 06 สีจัสมิน สำหรับคนผิวขาวหรือต้องการให้ผิวออกขาว ขาดูนวลเนียนผุดผ่อง
- รหัส 09 สีแทน สำหรับสาวผิวคล้ำ หรือผู้ที่ชอบผิวสีน้ำผึ้ง เพื่อผิวสีเข้มเรียวขาสวยเนียนชวนมอง
- รหัส 17 สีโค้ก สำหรับคนผิวสีค่อนข้างเข้ม
- รหัส 28 สีน้ำตาลแดงสำหรับคนผิวเหลืองอมแดง ขาจะดูเนียนสวยมีชีวิตชีวา
- รหัส 29 สีเนื้อนวล สำหรับคนผิวขาว
เลือกสีและขนาดของถุงน่องให้เหมาะกับสีผิว,รูปร่างและเรียวขาจะช่วยให้ใส่ถุงน่องสบายและกระชับกับเรียวขา ถ้าไม่มั่นใจเรียกขนาดถุงน่องก็ปรึกษาพนักงานขายเลยจ๊าเพื่อความมั่นใจ
เคล็ดลับเพิ่มเติมเวลาถุงน่องรันให้ใช้น้ำยาทาเล็บแบบสีใสทาบริเวณที่ถุงน่องรัน จะช่วยให้ถุงน่องไม่รันมากขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ
เรื่องของสีผม
ควรเป็นสีผมสุภาพตามธรรมชาติ แต่สำหรับสาวแซ่บที่รักการเปลี่ยนสีผมอาจจะต้องคิดหนัก หากต้องย้อมสีผมเป็นสีดำจะทำให้ผมดำมากและจะเป็นปัญหาในการเปลี่ยนสีผมไปเป็นเฉดสีที่อ่อนกว่าในภายหลัง เพราจะย้อมสีอื่นไม่ค่อยติด หรือกระดำกระด่างจึงต้องทำการล้างสีผมสีดำก่อนถึงจะย้อมสีใหม่ได้ ซึ่งการล้างสีผมจะทำให้ผมแห้งเสียมาก อิชั้นเลยขอนำเสนอทางเลือกอื่นๆที่จะช่วยชีวิตผมในวันรับปริญญา
1. สเปรย์ฉีดเปลี่ยนสีผม หาซื้อได้ตามร้านขายส่งเครื่องสำอางทั่วไป
ข้อดี : สะดวกในการเปลี่ยนสีผมชั่วคราว เพราะแค่สระ สีผมที่เราฉีดไว้ก็จะหลุดออก
ข้อเสีย : ต้องระวังน้ำ ระวังฝน ระวังเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้า
2. การ wax เคลือบสีผม สามารถซื้อผลิตภัณฑ์มาทำได้เองที่บ้าน หรือจะทำที่ร้านเสริมสวยก็ได้
ข้อดี : สีผมไม่เลอะเลือนง่าย ทำให้ไม่ต้องระวังมาก เส้นผมจะเงาสลวยและมีน้ำหนัก
ข้อเสีย : wax ที่เคลือบผมไว้จะค่อยๆหลุดล่อนไปตามกาลเวลา ในตอนที่เราสระผม แต่มันจะไม่หลุดไปทั้งหมดซะทีเดียวทำให้มันอาจจะเป็นปัญหาในภายหลังถ้าหากเราอยากจะย้อมสีผม อาจจะได้สีผมที่ไม่สม่ำเสมอ เพราะ เส้นผมบริเวณที่ยังมี wax เคลือบเอาไว้อยู่จะไม่ติดสีย้อมผมค่ะ
3. ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชั่วคราวจากญี่ปุ่น เพียงแค่สระและหมักทิ้งไว้ แล้วล้างออก ก็จะได้สีผมใหม่แล้วค่ะ
ข้อดี : สะดวก ทำได้เองที่บ้าน ผมไม่เสีย สีจะคงอยู่ได้หลายวัน
4. วิกผม ซื้อวิกมาใส่เลยค่ะ คงจะไม่แปลกอะไรเพราะทุกวันนี้ใครๆก็ใส่กัน
ข้อดี : ง่ายและรวดเร็ว ผมไม่เสีย
ข้อเสีย : อาจจะต้องทนกับความร้อนและความคัน ถ้าถ่ายรูปใช้แฟลช สีของเส้นไหมจะหลอกมาก และดูไม่เป็นธรรมชาติ ต้องจัดทรงดีดี นะจ๊ะ วิกมันจะได้ดูไม่เป็น วิ๊ก วิก
อาจจะซื้อผมปลอมแบบแฮร์พีช แบบช่อ หรือหางม้ามาใช้ช่วยต่อผมสำหรับสาวผมสั้น จะได้ลุคดูเรียบร้อยและสวยหวานขึ้น ผมปลอมแบบนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการคันด้วยล่ะ
เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
อันนี้ต้องดูตามกฎระเบียบของแต่ล่ะมหาวิทยาลัยว่าจะต้องแต่งยังไง ก็เลือกซื้อและแต่งตามนั้น
ชุดครุย ตามแบบของแต่ละมหาวิทยาลัย คิดไว้เลยว่าเอายังไง
1. เช่า สามารถไปลองที่ร้านได้เลยใส่ตัวไหนขนาดพอดีตัวก็เช่ามาโลด
2. ตัดเช่า คือไปวัดตัวแล้วให้ช่างตัดตามขนาดตัวเราแต่ใช้งานเสร็จแล้วต้องส่งชุดให้ทางร้านค่ะ
3. ซื้อ ตัดชุดตามขนาดตัวหลังการใช้งานก็เก็บชุดครุยไว้เป็นที่ชื่นชมของวงศ์ตระกูล หรือใครเป็นความหวังหมู่บ้านอยากเก็บไว้ เพราะเป็นครั้งหนึ่งของชีวิตก็เลือกเอาตามสะดวกเลยจ๊า
ชุดใส่ด้านใน ใส่ตามกฎระเบียบของมหาลัยแต่พวก กระดุมและหัวเข็มขัดแนะนำว่าให้ซื้อใหม่จะดีกว่า เพราะ สีจะสดใหม่และแวววาวกว่าของเก่าทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยค่ะ
รองเท้าสำหรับใส่ในวันรับปริญญา
ควรมีเวลาเลือกซื้อและลองใส่ก่อนถึงวันจริงพอประมาณ เผื่อจะได้มีเวลาทำความคุ้นเคยกับรองเท้าจะได้ไม่เจอปัญหารองเท้ากัดตามมาเน้ออออ อย่าลืมว่าเราต้องซ้อมต้องเดินอยู่กับรองเท้าทั้งวัน ถ้ารองเท้ากัดนี่มันจะเป็นอะไรที่มรมานมั่กมาก...
เลือกรองเท้าสีดำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบนะคะเวลาทดลองใส่ควรทดลองททั้ง 2 ข้างแล้วเดินดูด้วยคะว่าเดินสะดวกมั้ยรู้สึกคับตรงช่วงไหนบ้างหรือเปล่า เช่น เรารู้สึกคับและเจ็บบริเวณนิ้วเท้าก็มั่นใจได้เลยว่า ในอานาคตรองเท้ามันต้องกัดเราบริเวณนี้แน่ๆ เลือกรองเท้าให้ถูกใจมันก็ยากเหมือนเลือกแฟนนั่นแหล่ะค่ะ (แต่เรื่องเลือกแฟนก็ยังยากกว่าอยู่นะ หุหุ)
เคล็ดลับการป้องกันรองเท้ากัดก็คือ เอาวาสลีนทาที่บริเวณขอบรองเท้า หรือบริเวณด้านใน จะทำให้หนังรองเท้านิ่มขึ้นได้ค่ะ แต่อาจจะไม่เวิรค์สำหรับรองเท้าหนังแก้วหรือหนังเทียม
การเตรียมผิวหน้าให้ สวยสดใส
นอกเหนือจากการบำรุงผิวพรรณตามปกติ ช่วง 1 เดือนก่อนถึงวันงานควรมาร์คหน้า ขัดหน้าและบำรุงผิวให้มากเป็นพิเศษอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผิวของเราชุ่มชื่น และเต่งตึงก็จะทำให้การแต่งหน้าเนียนสวยได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าผิวหน้าแห้งก็จะมีปัญหาทาแป้งไม่เนียนเท่าไหร่ หรือทาแป้งไม่ค่อยติดหน้า เพราะผิวหน้าอาจจะมีสะเก็ดเล็กๆของผิวแห้ง เคล็ดลับพิเศษเตรียมผิวให้นุ่มและชุ่มชื่นในระยะเวลา 3 วันก่อนถึงวันงาน คือ การล้างหน้าด้วยนมสดรสจืด ถ้าใครอย่างเสี่ยงลองนมหวานทาแล้วหน้าเหนียวก็อย่าว่ากันนะค๊า เอานมสดล้างหน้า หลังการล้างหน้าปกติ อย่าล้างหน้าทันทีให้รอให้หน้าแห้งสัก 15 – 20 นาที ค่อยล้างออกผิวหน้าจะนุ่มลื่นและเนียนขึ้น หรือจะพอกหน้าด้วยโยเกริต์ก็ดีค่ะ ถ้าใครผิวมันหน่อยให้ผสมน้ำมะนาวลงไปในโยเกริต์ด้วยแล้วเอามาพอก ทิ้งไว้รอจนแห้งสัก 30 นาทีค่อยล้างหน้าออกก็ได้ผลดีทีเดียวคะ หน้าจะดูผ่องขึ้นมาทันตา ส่วนในช่วงวันงานต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็อย่าลืมล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดนะคะ พักผ่อน และดื่มน้ำก่อนนอนให้มากๆตื่นมาหน้าตาจะได้สดใส พร้อมไปแต่งหน้าให้เฉิดฉายและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกพร้อมกับเพื่อนๆและครอบครัว ก่อนนอนอาจจะฝานแตงกวาสัก 2 แผ่น มาโปะรอบดวงตาไว้ ผิวบริเวณนั้นจะได้ชุ่มชื้น และช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตาได้ หรือถ้าใต้ตาคล้ำมา ฝานมันฝรั่งมา 2 แผ่นวางไว้บนดวงตาก็ช่วยได้ เพราะในมันฝรั่งจะมีตัวช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตาได้ดีมากๆค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ผู้ติดตาม
คลังบทความของบล็อก
เกี่ยวกับฉัน
- Alejandra
- หญิงสาว(เหลือน้อย)นางหนึ่ง ที่ไม่ค่อยอยากจะเครียดกับชีวิตถ้าไม่จำเป็น กิจกรรมสุดโปรดคือการโบ๊ะหน้าด้วยเครื่องสำงอางค์เพื่ออำพลางหน้าเหียกๆ ชอบร้องชอบเต้น(แต่ไม่เอาไหน) และชอบไปวัด เคยแต่งสโมกกี้อายตาดำปื้ดดดดดไปวัดหนนึง เล่นเอาพระสงฆ์องค์เจ้า อีกทั้งสามเณรประทับใจกันแบบไม่รู้ลืม