แต่งหน้ารับปริญญาในโทนสีชมพู PINK PINK !!

สวัสดีจ๊าาาาาเพื่อนๆ


ห่างหายจากวงการโพสฮาวทูไปนานเนื่องด้วยกล้องพัง เลยอดบ้าพลังไปพักใหญ่ แต่ในที่สุดก็ได้คลอดฮาวทูแต่งหน้ารับปริญญาแบบเต็มรูปแบบ หลังจากที่เคยทำ mini guide ก็มีรีเควสขอแบบเต็มรูปแบบมา วันนี้เลยจัดให้ แถมได้น้องเกด น้องสาวที่น่ารักและนิสัยดีอาสามาเป็นเหยื่อให้ด้วย ซึ่งน้องเกดเองก็จะรับปริญญาเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้ อิฉันก็ขอแสดงความยินดีกับน้องเกด และบัณฑิตใหม่ที่รับปริญญาไปแล้ว และ กำลังจะรับปริญญาในอนาคตด้วยนะคะ

โทนสีแต่งหน้ารับปริญญา ที่แต่งแล้วดูสวยเป็นธรรมชาติก็จะมี ชมพู,ส้ม,พีช(ส้มอมชมพู) และ น้ำตาลทอง ค่ะ

แหม่มร่างโทนสีการแต่งหน้าไว้ทั้ง 4 แบบรวมถงเครื่องสำอางค์ที่ใช้แต่งในแต่ล่ะแบบโทนสี ถ้าใครสนใจก็หลังไมค์มาได้คะ ยินดีแจกให้ฟรีทางอีเมลล์


โทนสีที่อิฉันเอามาเสนอหน้าวันนี้ก็คือโทนชมพูนะคะ เพราะน้องเกดเค้าหน้าหวาน บวกกับนิสัยเรียบร้อยเลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับสีชมพูหวาน และลุคแบบใสๆ

 แหม่มลงสีเครื่องสำอางค์จริงบนกระดาษ อาศัยการวาดมือเอา เพราะว่าปึกเหลือเกิ๊นนนกับการใช้ illustrator ยกเว้นสีปากนะคะที่ไม่ใด้ใช้เครื่องสำอางค์จริงลงสี

มาเริ่มกันเลยดีกว่าาาาาาาาาาาาาาาาา ถือโอกาสรีวิวเครื่องสำอางค์ที่ใช้บางส่วนไปด้วยเลยก็แล้วกัน


Before : เหยื่อของเฮาวันนี้ผิวหน้าค่อนข้างดี ไม่แห้ง ไม่มันเป็นผิวแบบธรรมดา ไม่มีริ้วรอย หรือจุดด่างดำ แต่มีปัญญา สิวเม็ดเล็กๆที่หน้าผาก และกระเล็กๆ ตามผิวหน้า ซึ่งสามารถปกปิดได้ด้วยรองพื้น

ผิวหน้า



ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดรอให้ครีมซึมซับลงผิวดีแล้ว ก็ตามด้วยเบสใสก่อนลงรองพื้น เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้นจะได้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้นและช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนขึ้นด้วยอีกต่างหาก

Review :วันนี้แหม่มลงเบสใสของโมเดลโคให้น้องค่ะ หลังจากเบสของ smashbox หมด เลยมีโอกาสได้ซื้อตัวนี้มาลอง เทียบกันแล้วตัวนี้เกลี่ยง่ายกว่า เพราะเนื้อเหลวกว่า และบรรจุภัณฑ์เป็นพลาสติกแบบหลอดบีบได้ อันเก่าของ smashbox เป็นแบบขวดแก้วต้องปั้มเอา ซึ่งหลังจากใช้ไปสักพักก็จะปั้มไม่ขึ้น ลำบากอิชั้นต้องสรรหาวิธีจกเบสจากขวดขึ้นมาใช้อี๊กก



หลังจากนั้นก็ลงรองพื้น 5 จุดแล้วใช้แปรงเกลี่ยให้เนียนทั่วหน้า ตรงไหนที่ต้องปกปิดเป็นพิเศษ ค่อยใช้ดัชนีนางกดรองพื้นซ้ำเป็นจุดๆไปจะได้ไม่หนักหนังหน้าน๊ะ

Founadation review : ได้ยินกิตติศัพท์รองพื้นเอสเต้มานาน ว่าเนียนและติดทน เหมาะกับการปกปิด มากหน่อย และเน้นให้ติดทน เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับการเอามาแต่งหน่ารับปริญญาวันนี้ใช้รุ่น double wear เทียบกะของ covermark ที่ว่าดีแล้ว เราว่าตัวนี้ของเอสเต้ติดทนนานกว่านะคะ อ้อ อิฉันสอยรุ่นปกปิดแบบ maximumของ เอสเต้มาด้วยเทสแล้วว่าเนียนโคตรๆ เหมาะกับการใช้รองพื้นออกงาน แบบคือให้รู็ว่าทาแล้วเนียนน แต่มันก็ไม่ดูหนานะ แค่รู็สึกว่าเอ้ยมันเนียนผิดปกติ เหมาะกับคนที่ต้องการปกปิดมากๆ ถ้าอยากได้แบบใสๆ รองพื้นของ ลูนาซอล ดีกว่าคะ เนียนจะบางกว่า เหมาะกับการใช้ทุกวัน รูปรีวิวด้านล่างเลยจ๊า





ที่วงๆใว้คือบริเวณกักกันไว้เพื่อทดสอบประสิทธิภาพรองพื้นตัวนี้ไว้นะคะ จะสังเกตุได้ว่า After รอยเส้นเลือดมองไม่เห็นแล้วคะ เนียนดีทดลองทาแต่งหน้าออกไปลัลล้าท้งวัน ไม่มีลอกล่อนหรือเป็นคราบแตกลายงาแต่อย่างใด ถือว่าผ่านการทดสอบค่ะ :)

กลับมาที่น้องนางแบบ

เพิ่มมิติให้ใบหน้าด้วยเฉดดิ้งที่ข้างแก้มและสันจมูก หน้าจะได้ดูคมมีมิติมากขึ้น แหม่มใช้เฉดดิ้งArty เหมือนเดิม เพราะมันเนื้อเนียนบางเกลี่ยง่าย ให้สีเป็นธรรมชาติ ตัวนี้ใช้หมดไปหลายตลับแล้วค่ะ




ลงไฮไลต์ให้ผิวสว่างขึ้นที่ใต้โหนกคิ้วและสันจมูก แหม่มแอบบลงตรงรอยหยักของขอบปากด้านบนนิดหน่อยด้วย เพราะมันจะทำให้ขอบปากดูเชิดขึ้น น่ารักดี แหม่มใช้eyecream ของ shisedo มาทำไฮไลต์



หลังจากนั้นก็เหมือนเดิมชุบแป้งทอดดด ด้วย แป้งฝุ่น LM

แก้ม

ปัดแก้มด้วยสี Orgasm ของ NARS + OP จะได้แก้มระเรื่อๆออกสีชมพูหวานๆ แพร่บ แพร่บบบ ( แอบเลียจอคอมพิวเตอร์)

คิ้ว


เขียนคิ้วให้ได้รูปด้วยสีน้ำตาล เพราะวันรับปริญญาต้องทำผมสีเข้ม แต่น้องเกดยังไม่ได้ย้อมผมสีเข้มเลยอาจจะดูขัดๆนิดนึงกับลุครับปริญญา แต่ว่าใให้อภัยได้คับ เพราะว่าน้องเค้าสวย ฮ่า ฮ่าาา

เปลือกตาด้านบน

  1. ทาสีชมพูอ่อน(1) ให้ทั่วเปลือกตาตามรูปเลยจ๊ะ
  2. ทาสีชมพูเข้ม(2) ตรงรอยพับของเปลือกตาแล้วเกลี่ยให้สีเนียนกลมกลืนกัน
  3. ลงสีน้ำตาลทอง(3) ที่หางตา อาจจะลงสีนี้ตรงเปลือกตาด้านบนแถวๆบริเวณหัวตาด้วยตาจะดูลึกมีมิติและดูกลมขึ้น
ตาล่าง

  1. ทาสีขาว(1) ที่หัวตาไปประมาณ 1/3 ของความยาวรูปตา
  2. ลงสีน้ำตาลทอง(2) ที่หางตา 2/3 ของความยาวรูปตาด้านล่าง



  1. กรีดขอบตาด้วยเจลอายไลน์เนอร์สีดำ แหม่มใช้ของ Etude
  2. เอาคัตตอนบลัชแต้มสีน้ำตาลเข้มหรือดำมาเกลี่ยเส้นขอบตาตรงหางตาให้ดูฟุ้งๆ
ขนตา



  1. ดัดขนตาให้งอนด้วยที่ดัดขนตาของ shu
  2. ปัดขนตาให้ดกดำและดูงอนงามด้วยเจ้ามาสคาร่าอ้วนดำของ maybeline ของดีราคาไม่แพง

บางคนอาจจะจบขั้นตอนการแต่งตาที่ตรงนี้ถ้าชอบลุคใสๆนะคะ แต่แหม่มอยากให้น้องถ่ายรูปออกมาสวยเลยเพิ่มขนตาปลอมให้น้องเค้าด้วย เพราะตอนถ่ายรูปสีที่เราแต่งหน้าไว้จะดรอบลงจากปกติ 20-30% ยังไงรูปถ่ายเราต้องเก็บไว้ดูชั่วลูกชั่วหลานอ่ะนะ ขอสวยในรูปไว้เป็นหลักก็แล้วกัน ฮ่าๆ

ตัดขนตาปลอมเอามาใช้แค่ครึ่งแผลติดเฉพาะตรงหางตาก็พอคะจะได้ลุคหวานปนเฉี่ยวเล็กๆและดูเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นก็กรีดอายไลน์เนอร์เส้นเล็กๆแบบน้ำสีดำลงไปเพื่อปกปิดรอยแนวกาวติดขนตาปลอม

ปาก


ถ้าอยากได้ลุคใสๆ ก็ลง tint แล้วตามด้วยลิบกลอสแบบในรูปtint สีกุหลาบแดงอมชมพูดูสวยงาม แต่ข้อเสียก็คือ การลงสีแบบนี้สีจะอยู่ได้ไม่นานค่ะต้องคอยเติมระหว่างวัน ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาว่างมานั่งเติมสีปากหรือเปล่า มีอีกวิธีนึงที่จะทำให้สีปากเราไม่ซีดจางได้ง่ายๆก็คือ.......... แต่น แตน แต๊นนนนนนนนน


เอาดินสอเขียนขอบปากมาใช้ทาให้ทั่วปากแทนลิปสติก รับประกันว่าติดทนนานค่ะ รีวิวสีไว้ด้านบนนะคะ
++++++ จบขั้นตอนการแต่งหน้าทั้งหมดแล้วจ๊า++++++

ผลงานหลังแต่งก็เป็นเยี่ยงนี้แล..............

สวยหวานในโทน PINK PINK


เทียบรูป BEFORE & AFTER ให้ดูคะ


ทดลองถ่ายภาพในแสงที่แตกต่างกัน

 แสงธรรมชาติในที่ร่ม


ในที่ร่ม



กลางแจ้งประมาณเที่ยงๆ



กลางแจ้งอีกภาพค่ะ


ภาพนี้ยิงแฟลชกลางแจ้งค่ะ

ขอให้ฮาวทูนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการใช้โทนสีแต่งหน้ารับปริญญาแล้วกันนะคะ ยังไงการแต่งหน้าก็ไม่มีแบบแผนที่ตายตัว เราสามารถเอาไปปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบของเราได้อีกเยอะแยะคะ

ขอบคุณทุกคอมเมนต์ล่วงหน้าด้วยนะคะ
ต้องขอขอบคุณน้องเกดที่หลวมตัวมาเป็นแบบให้ด้วยเด้อออออ พี่หล้าซาบซึ้งน้ำใจมากมาย

เตรียมสวยให้พร้อมก่อนวันรับปริญญา

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ทุกคนด้วยนะจ๊ะ     ขอให้เป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ คู่คุณธรรม นำความรู้ความสามารถที่อุตสาหะร่ำเรียนมา ช่วยกันพัฒนาประเทศไทยให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป  เพื่อลูกหลานในอนาคตจะได้สบาย     เรื่องการเตรียมตัวให้พร้อมในวันรับปริญญานั้นมีหลายเรื่องขอแยกออกเป็นเรื่องๆนะคะ

การเลือกซื้อถุงน่อง




ชนิดของถุงน่อง : ถุงน่องนั้นมีหลายชนิดแต่แบบที่เหมาะสำหรับใส่ในวันรับปริญญาควรเป็นแบบ Sheer เนื้อถุงน่องจะเนียน ไม่หนา ใส่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติกลืนไปสีผิวจริง และดูเหมือนไม่ได้ใส่ หรือแบบ Support ก็จะหนาขึ้นมาอีดกหน่อย และ กระชับมากกว่าแบบ sheer

ขนาดของถุงน่อง : โดยปกติแล้วผู้หญิงเราจะมีสรีระรูปร่าง และขนาดที่แตกต่างกันออกไป ขนาดมาตรฐาน( free size )ของถุงน่องทั่วไป ผลิตมาสำหรับผู้มีความสูงเฉลี่ยตั้งแต่ 145 – 165 ซม. และมีความกว้างรอบสะโพก ขนาด 80 – 98 ซม. แต่โดยทั่วไปแล้วจะมี 3 ขนาด

  1.  Size SM สำหรับความสูง 150 -160 ซม. ขนาดรอบสะโพกโดยเฉลี่ย 80 – 94 ซม.
  2.  Size ML สำหรับความสูง 158 -170 ซม. ขนาดรอบสะโพกโดยเฉลี่ย 88 – 100 ซม.
  3.  Size XL สำหรับความสูง 166 -170 ซม. ขนาดรอบสะโพกโดยเฉลี่ย 96 – 110 ซม.

นอกจากนี้ยังมีการแยกขนาดของถุงน่องแบบพิเศษตามขนาดของรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย 3 แบบ คือ

  1.  ผอมบาง ( Extra Small ) เหมาะสำหรับคนที่ตัวเล็กและรูปร่างไม่สูงนัก ความสูงเฉลี่ย 150 - 155 ซม. น้ำหนัก อยู่ในเกณฑ์ระหว่าง 35 – 45 กก. ขนาดรอบสะโพกระหว่าง 75 – 85 ซม.
  2.  อ้วนเตี้ย ( Extra Asian ) เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างอ้วนและไม่สูงนัก มีเรียวขาอวบและต้นขาใหญ่ เฉลี่ยความสูงระหว่าง 155 – 165 ซม. น้ำหนักโดยเฉลี่ย 60 – 70 กก. สะโพกระหว่าง 90 – 100 ซม.
  3. สูงใหญ่ ( Extra European ) เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างใหญ่แบบฝรั่ง คือสูงและมีขนาดตัวใหญ่ ความสูงตั้งแต่ 165 ซม. ขึ้นไป มีน้ำหนักมากกว่า 70 กก. และมีขนาดสะโพกมากกว่า 100 ซม.

การเลือกสีของถุงน่อง : แน่นอนว่าคุณสาวๆต้องใส่สีเนื้อเพราะเป็นงานแบบมีพิธีการต้องดูเรียบร้อยและสุภาพนิดนึง… เก็บถุงน่องลวดลายแพรวพราวหรือสีสันแสบทรวดไว้ในตู้ก่อน ถุงน่องสีเนื้อก็มีหลายเฉดสีแต่สีไหนน๊าที่จะเหมาะกับคุณสาวๆในแต่ละโทนสีผิว เพราะถ้าเราเรียกสีถุงน่องสว่างหรือเข้มเกินไป จะดูเหมือนว่าไปเอาท่อนขาของคนอื่นมาสวมไว้ เพราะมันจะดูหลอกตาเหมือนขาปลอม *.* โทนสีเนื้อหลักๆที่ขายกันทั่วไปตามท้องตลาดก็จะมี...

  • รหัส 01 สีเบจ สำหรับคนที่มีสีผิวขาวมาก ใส่ขาจะดูนวลเนียนผุดผ่อง
  • รหัส 02 สีกาแฟครีม สำหรับคนผิวค่อนข้างขาวใส่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติ
  • รหัส 04 สีเนื้อบุษราคัม สำหรับคนที่มีสีผิวออกเหลืองเพิ่มเสน่ห์ให้ขาเนียนสวย
  • รหัส 05 สีเนื้ออมส้ม สำหรับคนผิวขาวเหลือง ใส่สีนี้แล้วจะดูนวลงามมีเสน่ห์
  • รหัส 06 สีจัสมิน สำหรับคนผิวขาวหรือต้องการให้ผิวออกขาว ขาดูนวลเนียนผุดผ่อง
  • รหัส 09 สีแทน สำหรับสาวผิวคล้ำ หรือผู้ที่ชอบผิวสีน้ำผึ้ง เพื่อผิวสีเข้มเรียวขาสวยเนียนชวนมอง
  • รหัส 17 สีโค้ก สำหรับคนผิวสีค่อนข้างเข้ม
  • รหัส 28 สีน้ำตาลแดงสำหรับคนผิวเหลืองอมแดง ขาจะดูเนียนสวยมีชีวิตชีวา
  • รหัส 29 สีเนื้อนวล สำหรับคนผิวขาว
“ ควรจดรหัสสี และขนาดsize ที่เหมาะสมกับคุณไว้ประกอบการเลือกซื้อ อ้อควรจะซื้อเผื่อไว้สัก 2 คู่นะคะ เพราะอาจจะมีเหตุฉุกเฉิน ถุงน่องรัน จะได้มีไว้แก้ขัด”

เลือกสีและขนาดของถุงน่องให้เหมาะกับสีผิว,รูปร่างและเรียวขาจะช่วยให้ใส่ถุงน่องสบายและกระชับกับเรียวขา ถ้าไม่มั่นใจเรียกขนาดถุงน่องก็ปรึกษาพนักงานขายเลยจ๊าเพื่อความมั่นใจ

เคล็ดลับเพิ่มเติมเวลาถุงน่องรันให้ใช้น้ำยาทาเล็บแบบสีใสทาบริเวณที่ถุงน่องรัน จะช่วยให้ถุงน่องไม่รันมากขึ้นไปกว่าเดิมค่ะ 

เรื่องของสีผม



ควรเป็นสีผมสุภาพตามธรรมชาติ แต่สำหรับสาวแซ่บที่รักการเปลี่ยนสีผมอาจจะต้องคิดหนัก หากต้องย้อมสีผมเป็นสีดำจะทำให้ผมดำมากและจะเป็นปัญหาในการเปลี่ยนสีผมไปเป็นเฉดสีที่อ่อนกว่าในภายหลัง เพราจะย้อมสีอื่นไม่ค่อยติด หรือกระดำกระด่างจึงต้องทำการล้างสีผมสีดำก่อนถึงจะย้อมสีใหม่ได้ ซึ่งการล้างสีผมจะทำให้ผมแห้งเสียมาก อิชั้นเลยขอนำเสนอทางเลือกอื่นๆที่จะช่วยชีวิตผมในวันรับปริญญา

1.   สเปรย์ฉีดเปลี่ยนสีผม หาซื้อได้ตามร้านขายส่งเครื่องสำอางทั่วไป
ข้อดี : สะดวกในการเปลี่ยนสีผมชั่วคราว เพราะแค่สระ สีผมที่เราฉีดไว้ก็จะหลุดออก
ข้อเสีย : ต้องระวังน้ำ ระวังฝน ระวังเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้า

2.  การ wax เคลือบสีผม สามารถซื้อผลิตภัณฑ์มาทำได้เองที่บ้าน หรือจะทำที่ร้านเสริมสวยก็ได้
ข้อดี : สีผมไม่เลอะเลือนง่าย ทำให้ไม่ต้องระวังมาก เส้นผมจะเงาสลวยและมีน้ำหนัก
ข้อเสีย : wax ที่เคลือบผมไว้จะค่อยๆหลุดล่อนไปตามกาลเวลา ในตอนที่เราสระผม แต่มันจะไม่หลุดไปทั้งหมดซะทีเดียวทำให้มันอาจจะเป็นปัญหาในภายหลังถ้าหากเราอยากจะย้อมสีผม อาจจะได้สีผมที่ไม่สม่ำเสมอ เพราะ เส้นผมบริเวณที่ยังมี wax เคลือบเอาไว้อยู่จะไม่ติดสีย้อมผมค่ะ

3. ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชั่วคราวจากญี่ปุ่น เพียงแค่สระและหมักทิ้งไว้ แล้วล้างออก ก็จะได้สีผมใหม่แล้วค่ะ
ข้อดี : สะดวก ทำได้เองที่บ้าน ผมไม่เสีย สีจะคงอยู่ได้หลายวัน

4. วิกผม ซื้อวิกมาใส่เลยค่ะ คงจะไม่แปลกอะไรเพราะทุกวันนี้ใครๆก็ใส่กัน
ข้อดี : ง่ายและรวดเร็ว ผมไม่เสีย
ข้อเสีย : อาจจะต้องทนกับความร้อนและความคัน ถ้าถ่ายรูปใช้แฟลช สีของเส้นไหมจะหลอกมาก และดูไม่เป็นธรรมชาติ ต้องจัดทรงดีดี นะจ๊ะ วิกมันจะได้ดูไม่เป็น วิ๊ก วิก

อาจจะซื้อผมปลอมแบบแฮร์พีช แบบช่อ หรือหางม้ามาใช้ช่วยต่อผมสำหรับสาวผมสั้น จะได้ลุคดูเรียบร้อยและสวยหวานขึ้น ผมปลอมแบบนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องอาการคันด้วยล่ะ

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย


อันนี้ต้องดูตามกฎระเบียบของแต่ล่ะมหาวิทยาลัยว่าจะต้องแต่งยังไง ก็เลือกซื้อและแต่งตามนั้น

ชุดครุย ตามแบบของแต่ละมหาวิทยาลัย คิดไว้เลยว่าเอายังไง

1. เช่า สามารถไปลองที่ร้านได้เลยใส่ตัวไหนขนาดพอดีตัวก็เช่ามาโลด

2. ตัดเช่า คือไปวัดตัวแล้วให้ช่างตัดตามขนาดตัวเราแต่ใช้งานเสร็จแล้วต้องส่งชุดให้ทางร้านค่ะ

3. ซื้อ ตัดชุดตามขนาดตัวหลังการใช้งานก็เก็บชุดครุยไว้เป็นที่ชื่นชมของวงศ์ตระกูล หรือใครเป็นความหวังหมู่บ้านอยากเก็บไว้ เพราะเป็นครั้งหนึ่งของชีวิตก็เลือกเอาตามสะดวกเลยจ๊า

ชุดใส่ด้านใน ใส่ตามกฎระเบียบของมหาลัยแต่พวก กระดุมและหัวเข็มขัดแนะนำว่าให้ซื้อใหม่จะดีกว่า เพราะ สีจะสดใหม่และแวววาวกว่าของเก่าทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยค่ะ

รองเท้าสำหรับใส่ในวันรับปริญญา

ควรมีเวลาเลือกซื้อและลองใส่ก่อนถึงวันจริงพอประมาณ เผื่อจะได้มีเวลาทำความคุ้นเคยกับรองเท้าจะได้ไม่เจอปัญหารองเท้ากัดตามมาเน้ออออ อย่าลืมว่าเราต้องซ้อมต้องเดินอยู่กับรองเท้าทั้งวัน ถ้ารองเท้ากัดนี่มันจะเป็นอะไรที่มรมานมั่กมาก...

เลือกรองเท้าสีดำให้ถูกต้องตามกฎระเบียบนะคะเวลาทดลองใส่ควรทดลองททั้ง 2 ข้างแล้วเดินดูด้วยคะว่าเดินสะดวกมั้ยรู้สึกคับตรงช่วงไหนบ้างหรือเปล่า เช่น เรารู้สึกคับและเจ็บบริเวณนิ้วเท้าก็มั่นใจได้เลยว่า ในอานาคตรองเท้ามันต้องกัดเราบริเวณนี้แน่ๆ เลือกรองเท้าให้ถูกใจมันก็ยากเหมือนเลือกแฟนนั่นแหล่ะค่ะ (แต่เรื่องเลือกแฟนก็ยังยากกว่าอยู่นะ หุหุ)

เคล็ดลับการป้องกันรองเท้ากัดก็คือ เอาวาสลีนทาที่บริเวณขอบรองเท้า หรือบริเวณด้านใน จะทำให้หนังรองเท้านิ่มขึ้นได้ค่ะ แต่อาจจะไม่เวิรค์สำหรับรองเท้าหนังแก้วหรือหนังเทียม

การเตรียมผิวหน้าให้ สวยสดใส



นอกเหนือจากการบำรุงผิวพรรณตามปกติ ช่วง 1 เดือนก่อนถึงวันงานควรมาร์คหน้า ขัดหน้าและบำรุงผิวให้มากเป็นพิเศษอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผิวของเราชุ่มชื่น และเต่งตึงก็จะทำให้การแต่งหน้าเนียนสวยได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าผิวหน้าแห้งก็จะมีปัญหาทาแป้งไม่เนียนเท่าไหร่ หรือทาแป้งไม่ค่อยติดหน้า เพราะผิวหน้าอาจจะมีสะเก็ดเล็กๆของผิวแห้ง เคล็ดลับพิเศษเตรียมผิวให้นุ่มและชุ่มชื่นในระยะเวลา 3 วันก่อนถึงวันงาน คือ การล้างหน้าด้วยนมสดรสจืด ถ้าใครอย่างเสี่ยงลองนมหวานทาแล้วหน้าเหนียวก็อย่าว่ากันนะค๊า เอานมสดล้างหน้า หลังการล้างหน้าปกติ อย่าล้างหน้าทันทีให้รอให้หน้าแห้งสัก 15 – 20 นาที ค่อยล้างออกผิวหน้าจะนุ่มลื่นและเนียนขึ้น หรือจะพอกหน้าด้วยโยเกริต์ก็ดีค่ะ ถ้าใครผิวมันหน่อยให้ผสมน้ำมะนาวลงไปในโยเกริต์ด้วยแล้วเอามาพอก ทิ้งไว้รอจนแห้งสัก 30 นาทีค่อยล้างหน้าออกก็ได้ผลดีทีเดียวคะ หน้าจะดูผ่องขึ้นมาทันตา ส่วนในช่วงวันงานต่อให้เหนื่อยแค่ไหนก็อย่าลืมล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจดนะคะ พักผ่อน และดื่มน้ำก่อนนอนให้มากๆตื่นมาหน้าตาจะได้สดใส พร้อมไปแต่งหน้าให้เฉิดฉายและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกพร้อมกับเพื่อนๆและครอบครัว ก่อนนอนอาจจะฝานแตงกวาสัก 2 แผ่น มาโปะรอบดวงตาไว้ ผิวบริเวณนั้นจะได้ชุ่มชื้น และช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตาได้ หรือถ้าใต้ตาคล้ำมา ฝานมันฝรั่งมา 2 แผ่นวางไว้บนดวงตาก็ช่วยได้ เพราะในมันฝรั่งจะมีตัวช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตาได้ดีมากๆค่ะ

ผู้ติดตาม

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
หญิงสาว(เหลือน้อย)นางหนึ่ง ที่ไม่ค่อยอยากจะเครียดกับชีวิตถ้าไม่จำเป็น กิจกรรมสุดโปรดคือการโบ๊ะหน้าด้วยเครื่องสำงอางค์เพื่ออำพลางหน้าเหียกๆ ชอบร้องชอบเต้น(แต่ไม่เอาไหน) และชอบไปวัด เคยแต่งสโมกกี้อายตาดำปื้ดดดดดไปวัดหนนึง เล่นเอาพระสงฆ์องค์เจ้า อีกทั้งสามเณรประทับใจกันแบบไม่รู้ลืม